แมนยูฯ เฉือนชนะยิงจุดโทษ โคเปนเฮเก้น 1-0

svalyava.org แมนยูฯ เฉือนชนะยิงจุดโทษ โคเปนเฮเก้น 1-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก

 ศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พาทีมคว้าชัยชนะ โคเปนเฮเก้น 1-0 โดยการยิงจุดโทษ สำคัญของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ในช่วง 120 นาที หลังเสมอกันในเวลา 90 นาที 0-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

เริ่มการแข่งขัน นาทีที่ 21 แมนยูฯ เกือบได้ประตูขึ้นนำ จาก จังหวะที่ เฟร็ด เปิดบอลไปหน้าประตู แม็กไกวร์ โหม่งบอลเข้ามาในเขตโทษ และเป็น บรูโน่ ที่โหม่งบอลหน้าประตู แต่ไปติดกองหลัง โคเปนเฮเก้น บอลกระเด้งข้ามคาน และเป็นจังหวะบอลล้ำหน้าด้วย

นาที 37 โคเปนเฮเก้น มาได้ลุ้นบ้าง เมื่อ วาเรล่า เติมเกมรุกขึ้นมาทางขวา ก่อนเปิดไปหน้าประตู และเป็น ดารามี่ วิ่งเข้ามาชาร์จจ่อๆ แต่ก็ยังไปติดแนวรับ แมนยู กระเด้งออกหลังไป

นาที 45 แมนยูฯ พลาดโอกาลขึ้นนำ เมื่อ แม็กไกวร์ โหม่งสกัดบอลจากแดนตัวเองไปให้ แรชฟอร์ด โหม่งต่ออีกครั้งมาหน้าประตู และเป็น กรีนวู้ด ที่วิ่งทะลุแนวรับ โคเปนเฮเก้น และพาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนยิงเสียบเสาไกลอย่างสุดสวย แต่เมื่อกรรมการเช็คจาก VAR แล้ว กลายเป็นลูกล้ำหน้าของ กรีนวู้ด แมนยูฯจึงไม่ได้ประตูในครั้งนี้

นาที 54 แมนยูฯ ได้ลุ้นอีกรอบ เมื่อ บรูโน่ ส่งบอลมาให้ เฟร็ด หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนดาวเตะแซมบ้าจะวิ่งเข้ามายิงเน้นๆ แต่บอลก็พุ่งไปตรงตัว โยฮัน ยอห์นส์สัน รับไว้ได้

นาที 57 แมนยูฯ ไม่ได้ประตูอีกแล้ว เมื่อ กรีนวู้ด ได้จังหวะสับไกในเขตโทษ บอลพุ่งไปชนเสากระเด้งออกมา และเป็น แรชฟอร์ด ที่ตามซ้ำดาบสองเข้าไป แต่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าไปก่อนแล้ว จึงทำให้ไม่ได้ประตูขึ้นนำ

นาที 62 บรูโน่ ได้จังหวะสับไกนอกกรอบเขตโทษ บอลตกพื้นและพุ่งหนีมือ โยฮัน ยอห์นส์สัน ไปแล้ว แต่บอลกลับชนเสากระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย

นาที 83 แมนยูฯ พลาดโอกาสขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อ มาร์กซิยาล ได้บอลริมเขตโทษด้านซ้าย ก่อนลากตัดเข้ากลางแล้วปั่นโค้งทันที บอลจะเสียบเสาอยู่แล้ว แต่ โยฮัน ยอห์นส์สัน ยังปัดออกหลังไปได้หวุดหวิด

เวลาแข่งขัน 90 นาที ทั้งคู่ยังคงเสมอ 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษไปอีก 30 นาที โดยนาทีที่ 94 แมนยู มาได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะที่ บรูโน่ จ่ายบอลให้ มาร์กซิยาล ในเขตโทษ ก่อนที่ดาวเตะฝรั่งเศสจะถูกสกัดล้มลง กรรมการชี้ไปที่จุดโทษทันที และเป็น บรูโน่ ที่รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ช่วยให้ทีมขึ้นนำ 1-0 หมดเวลาการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฉือนชนะ โคเปนเฮเก้น 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ

แต่ต้องยอมรับว่า โคเปนเฮเก้น แพ้ด้วยสกอร์แค่ 0-1 ถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับจังหวะการยิงประตูของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีหลายครั้งเหลือเกิน ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณ คาร์ล-โยฮัน ยอห์นส์สัน ผู้รักษาประตูชาวสวีเดนที่โชว์ฟอร์มสุดเหนียวหนึบในแมตช์นี้

“ปีศาจแดง” ครองเกมได้เหนือกว่า สร้างโอกาสได้มากกว่า และสามารถที่จะยิงประตูได้หลายต่อหลายครั้ง แต่การที่ โคเปนเฮเก้น ไม่เสียประตูเยอะเพราะความสุดยอดของ ยอห์นส์สัน ที่ป้องกันจังหวะอันตรายได้อย่างน่าเหลือเชื่อหลายต่อหลายครั้ง

จากสถิติเห็นได้อย่างชัดเจนว่า นายด่านมากประสบการณ์วัย 30 ปี สามารถเซฟจังหวะอันตรายได้ถึง 13 ครั้ง โดย 7 เซฟเกิดขึ้นในกรอบเขตโทษ ที่สำคัญไม่มีผู้รักษาประตูคนไหนที่สามารถเซฟได้เยอะขนาดนี้จากการเล่นเพียง 1 เกมในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก นับตั้งแต่ปี 2009

ฉะนั้นแล้ว”เร้ด อาร์มี่” ควรต้องขอบคุณความเฉียบคมของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ในการสังหารจุดโทษ เพราะลูกนั้นจริงๆ แล้ว ยอห์นส์สัน พุ่งไปถูกทางด้วย แต่ลูกยิงของ ดาวเตะชาวโปรตุกีส คมกริบ ก็เลยทำให้ทีมได้ประตูสำคัญเข้ารอบตัดเชือกไปแบบหวุดหวิด

————————————————————————

สมัคร โปรโมชั้นภายในเดือนนี้ รับโบนัสร้อนแรง แอดเลย ที่ line: @iprobet168

 

This content is restricted to site members. If you are an existing user, please log in. New users may register below.